เครื่องควบคุมความชื้นและอุณหภูมิ สำหรับควบคุมความชื้นในอากาศ By DRYER-D
เครื่องควบคุมความชื้นและอุณหภูมิ จะช่วยรักษาความชื้นในอากาศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ และช่วยให้ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นด้วย การลดความร้อน หรือความเย็นที่เกินไป และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สำหรับการทำงานและกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเสื่อมโทรมของวัสดุ และอุปกรณ์ในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงเกินไป ดังนั้นการรักษาความชื้นในอากาศเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสำคัญในสถานที่ทำงาน และสถานที่อยู่อาศัยของเรา
DRYER-D จำหน่ายสินค้าเครื่องควบคุมความชื้น เครื่องลดความชื้นอุตสาหกรรม และเครื่องเพิ่มความชื้น
ประโยชน์ของเครื่องควบคุมความชื้นและอุณหภูมิ
ช่วยลดความชื้นในอากาศ : เครื่องควบคุมความชื้น ช่วยลดความชื้นในอากาศ ซึ่งช่วยลดการเกิดเชื้อรา และแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และช่วยป้องกันการเกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความชื้น เช่น การสกัด หรือการทำลายโครงสร้างของโรงงาน
รักษาคุณภาพสินค้า : สำหรับโรงงานที่ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม เครื่องควบคุมความชื้นช่วยลดความชื้นในอากาศภายในโรงงาน ซึ่งมีผลต่อความสมบูรณ์ และคุณภาพของสินค้าที่ผลิต ลดการเสียหายในกระบวนการผลิต
เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต : การควบคุมความชื้นช่วยลดความชื้นในอากาศส่งผลให้เครื่องจักร และอุปกรณ์ทำงานได้อย่างเป็นปกติ ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และลดการหยุดชะงักในการทำงาน
ประหยัดค่าใช้จ่าย : การควบคุมความชื้นช่วยลดการใช้พลังงานในการทำความเย็น หรือทำความร้อนในโรงงาน ซึ่งส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาอุปกรณ์ และค่าพลังงาน
สร้างสภาพแวดล้อมที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ : การควบคุมความชื้นช่วยสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพสำหรับพนักงาน ซึ่งเพิ่มความสุขภาพและความพึงพอใจของพนักงานที่ทำงานในโรงงาน
ป้องกันอุบัติเหตุ : การควบคุมความชื้นช่วยลดความเป็นอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การลื่นไถลที่อาจเกิดขึ้นจากพื้นที่เปียกเปื้อน
ปรับสภาพแวดล้อมสำหรับการทำงานของเครื่องจักร : เครื่องควบคุมความชื้นช่วยปรับสภาพแวดล้อมในการทำงานของเครื่องจักร เช่น ลดความชื้นที่อาจทำให้เครื่องจักรเสียหายหรือทำงานไม่เป็นปกติ
ลดความสัมพันธ์ของสารเคมี : การควบคุมความชื้นช่วยลดความสัมพันธ์ของสารเคมีที่ใช้ในโรงงาน ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการปะทุ หรือการเกิดอันตรายอื่น ๆ
ปรับอากาศสำหรับการผลิตแบบพิเศษ : สำหรับโรงงานที่มีกระบวนการผลิตที่ต้องการเงื่อนไขสภาพแวดล้อมพิเศษ เครื่องควบคุมความชื้นช่วยสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับการทำงานในกระบวนการผลิตที่มีความซับซ้อน
เครื่องควบคุมความชื้นและอุณหภูมิ จะช่วยลดปัยจัยที่มีผลต่อการระเหยของความชื้นในอากาศ
ความชื้นในอากาศ หมายถึงปริมาณน้ำที่มีในอากาศ ซึ่งมักถูกวัดและแสดงในรูปแบบของ “ความชื้นสัมพัทธ์” (Relative Humidity) โดยมีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ (%RH) ซึ่งบ่งบอกถึงปริมาณของน้ำในอากาศ เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณที่สามารถรับได้สูงสุดที่อากาศนั้นสามารถรับได้ในอุณหภูมิ และความดันอากาศปัจจุบัน
ความชื้นในอากาศมีผลต่อสุขภาพของเรา เครื่องจักรในงานอุตสาหกรรม เฟอร์นิเจอร์ ยา เวชภัณฑ์ อาหาร และสภาพแวดล้อมต่างๆ ปริมาณความชื้นที่เหมาะสมในอากาศสำหรับความสบายของมนุษย์มักอยู่ในช่วง 40-60%RH อาจมีการเปลี่ยนแปลงความชื้นในอากาศขึ้นอยู่กับสถานที่ และสภาพภูมิอากาศนั้นๆ
ปัจจัยที่มีผลต่อการระเหยของ ความชื้นในอากาศ มีดังต่อไปนี้
อุณหภูมิ : ส่งผลต่อความเป็นไปได้ของความชื้นในอากาศ อากาศที่มีอุณหภูมิสูงมักจะมีความชื้นต่ำลง และมักจะรู้สึกร้อนและแห้งมากขึ้น ในทางกลับกัน อากาศที่เย็นมักจะมีความชื้นสูงขึ้น และมักจะรู้สึกชื้นและเย็นขึ้น เราจึงต้องใช้เครื่องควบคุมความชื้น เพื่อปรับสมดุลของสภาพแวดล้อม
การระบายน้ำ : การมีการระบายน้ำอย่างเหมาะสม สามารถช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศได้ เช่น การใช้เครื่องทำความเย็น หรือเครื่องทำความร้อนที่มีความช่วยเหลือในการควบคุมความชื้น เครื่องถ่ายเทความร้อน หรือเครื่องพ่นน้ำฝอย เป็นต้น
การวัดความชื้น : ความชื้นในอากาศสามารถวัดได้ด้วยหน่วยเปอร์เซ็นต์ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity) และการบริโภคน้ำมากหรือน้อย เช่น การใช้เครื่องทำความชื้น (humidifier) หรือ การระวังการออกแบบที่อาจทำให้มีการระเหยน้ำมากเกินไป เช่น สร้างชั้นวางของ หรือติดตั้งบรรจุภัณฑ์ที่มีน้ำ
การตัดแต่งพืช : พืชสามารถมีผลต่อความชื้นในอากาศด้วยการดูดซับน้ำจากดิน และปล่อยน้ำไปยังอากาศผ่านกระบวนการการหายใจ การตัดแต่งพืชในบ้าน หรือในพื้นที่ปลูกอาจมีผลต่อระดับความชื้นในอากาศ
ความสูงของที่ตั้ง: พื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเลมักจะมีความชื้นสูงกว่าพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในสูงเขามากกว่า
แหล่งที่มา : ความชื้นในอากาศ ทรูปลูกปัญญา
สิ่งสำคัญที่ควรทราบในการเลือกซื้อเครื่องควบคุมความชื้นและอุณหภูมิ
ก่อนที่จะเลือกซื้อเเครื่องควบคุมความชื้นและอุณหภูมิ ควรระบุว่า คุณต้องการควบคุมความชื้นในอากาศในระดับใด หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงอาจจำเป็นต้องเลือกเครื่องที่มีความสามารถในการลดความชื้น ในทางกลับกัน หากความชื้นในอากาศน้อยมาก คุณอาจต้องการเครื่องที่มีความสามารถในการเพิ่มความชื้น เลือกเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง และทำงานได้ถูกต้อง เครื่องที่มีการควบคุมอัตโนมัติ และความสามารถในการปรับความชื้นในอากาศอย่างต่อเนื่องจะเป็นทางเลือกที่ดี
ความจุของเครื่องควบคุมความชื้นสามารถรับมือกับพื้นที่ที่ต้องการควบคุมความชื้นได้ คุณควรเลือกเครื่องที่มีความจุเพียงพอสำหรับพื้นที่ที่คุณต้องการใช้งาน เช่น ห้องนอน , ห้องนั่งเล่น , หรือพื้นที่ทำงาน เป็นต้น และควรเลือกเครื่องที่ง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งรวมถึงการตั้งค่าอัตโนมัติ , การแสดงผลที่ชัดเจน , การบริการหลังการขาย การดูแลรักษาเมื่อเครื่องมีปัญหา
DRYER-D ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ที่คุณไม่ควรพลาด เพราะเรามีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการให้บริการมาไม่น้อยกว่า 5 ปี ในการออกแบบและการติดตั้งระบบลดความชื้น เพิ่มความชื้นในอากาศ และมีผลงานที่ผ่านมาในการจำหน่าย และติดตั้งตามหน่วยงานราชการ และเอกชนหลายแห่ง ที่ให้ความไว้วางใจ และให้การยอมรับเป็นอย่างดี
การเลือกเครื่องดูดความชื้นที่เหมาะสมกับโรงงานเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้ดูดซับความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปกป้องสุขภาพพนักงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ปกป้องสินค้า และโครงสร้างของโรงงาน
มีปัจจัยหลายประการที่ต้องพิจารณาในการเลือก ดังนี้
1. ขนาดพื้นที่: เลือกเครื่องดูดที่มีกำลังดูดเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ของโรงงาน
- พื้นที่ขนาดเล็ก: ใช้เครื่องดูดขนาด 10-20 ลิตรต่อวัน
- พื้นที่ขนาดกลาง: ใช้เเครื่องดูดขนาด 30-50 ลิตรต่อวัน
- พื้นที่ขนาดใหญ่: ใช้เเครื่องดูดขนาด 60 ลิตรต่อวันขึ้นไป
2. ระดับความชื้น: เลือกเครื่องดูดที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับความชื้นได้ตามต้องการ
- โรงงานทั่วไป: ควรเลือกเครื่องดูดที่สามารถลดความชื้นได้ 50-60%
- โรงงานที่มีความชื้นสูง: ควรเลือกเครื่องดูดแบบไฮบริด หรือเครื่องดูดที่มีประสิทธิภาพสูง
3. ฟังก์ชันการทำงาน: เลือกเครื่องดูดที่มีฟังก์ชันการทำงานเพิ่มเติม เช่น
- ตั้งเวลา
- ปรับระดับความชื้น
- ระบายน้ำทิ้งอัตโนมัติ
- แจ้งเตือนเมื่อถังน้ำเต็ม
- ฟอกอากาศ
4. งบประมาณ: เลือกเครื่องดูดที่เหมาะสมกับงบประมาณ
5. ยี่ห้อและบริการหลังการขาย: เลือกเครื่องดูดจากยี่ห้อที่มีชื่อเสียง มีบริการหลังการขายที่ดี
ตัวอย่าง เช่น
- โรงงานขนาดเล็ก: ควรเลือกเครื่องดูดแบบดูดซับขนาด 10-20 ลิตรต่อวัน
- โรงงานขนาดกลาง: ควรเลือกเครื่องดูดแบบระบายความร้อนขนาด 30-50 ลิตรต่อวัน
- โรงงานขนาดใหญ่: ควรเลือกเครื่องดูดคแบบไฮบริดขนาด 60 ลิตรต่อวันขึ้นไป