เลือกเครื่องปรับอากาศอย่างไรให้เหมาะสมกับบ้านคุณ ?
เครื่องปรับอากาศ เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีทั้งภายในบ้านและสำนักงาน และนอกจากการทำความเย็นแล้ว การมีฟังก์ชัน เครื่องควบคุมความชื้น ที่ทำงานร่วมกับเครื่องปรับอากาศ ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศที่เหมาะสม ลดปัญหาสุขภาพ และดูแลรักษาสินทรัพย์ภายในบ้านให้มีอายุการใช้งานยาวนานยิ่งขึ้น การเลือกเครื่องปรับอากาศที่ดีและมีฟังก์ชันควบคุมความชื้นที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้คุณและครอบครัวสามารถอยู่อาศัยในบ้านที่มีอากาศสบาย สดชื่น และปลอดภัย
ในยุคปัจจุบันที่อากาศร้อนขึ้นเรื่อย ๆ การมี เครื่องปรับอากาศ ภายในบ้านกลายเป็นสิ่งจำเป็น ไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณรู้สึกเย็นสบายเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในบ้านอีกด้วย แต่การเลือกเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อมีฟังก์ชันและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเรื่อยๆ เช่น เครื่องควบคุมความชื้น ที่ติดตั้งมาพร้อมกับระบบปรับอากาศสมัยใหม่ ดังนั้น การเลือกเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งในแง่ของความสบาย การประหยัดพลังงาน และการดูแลรักษาสุขภาพ
แต่ก่อนที่เราจะเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศสิ่งที่เราควรรู้แลัเข้าใจก่อนเลยคือ หลักการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ว่าเครื่องนี้มีหลักการทำงานแบบไหน และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
หลักการทำงานของ เครื่องปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศทำงานโดยการดูดซับความร้อนจากภายในห้องแล้วนำออกไปยังภายนอก ทำให้อากาศภายในห้องเย็นลง โดยใช้สารทำความเย็น (Refrigerant) ในการดูดซับความร้อนนั้น โดยกระบวนการนี้มีการทำงานร่วมกันของส่วนประกอบหลัก ๆ เช่น คอมเพรสเซอร์ (Compressor), คอนเดนเซอร์ (Condenser), และอีวาพอเรเตอร์ (Evaporator)
นอกจากการทำความเย็นแล้ว เครื่องปรับอากาศยังช่วยในการควบคุมระดับความชื้นในอากาศด้วย การทำงานของเครื่องปรับอากาศจะทำให้น้ำในอากาศควบแน่นและถูกดักจับโดยระบบภายในเครื่อง นั่นหมายความว่า นอกจากจะทำให้ห้องเย็นแล้ว ยังช่วยลดความชื้นที่เกินไปในอากาศ ทำให้รู้สึกสบายมากขึ้น
ประโยชน์ของเครื่องปรับอากาศ ที่มาพร้อมกับ เครื่องควบคุมความชื้น
การใช้งาน เครื่องปรับอากาศ ที่มาพร้อมกับ เครื่องควบคุมความชื้น นั้นให้ประโยชน์มากมาย ทั้งในเรื่องของสุขภาพ ความสะดวกสบาย และการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมภายในบ้านหรือสำนักงาน ต่อไปนี้คือประโยชน์หลัก ๆ ของเครื่องปรับอากาศที่มีระบบควบคุมความชื้น:
- ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม : เครื่องปรับอากาศช่วยรักษาอุณหภูมิและความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้น การปรับลดความชื้นจะทำให้รู้สึกเย็นและสดชื่นมากขึ้น
- ป้องกันการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย : ความชื้นที่สูงเกินไปในอากาศอาจเป็นสาเหตุของการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ การใช้เครื่องปรับอากาศที่มีระบบควบคุมความชื้นจะช่วยลดความชื้นในอากาศ ทำให้สภาพแวดล้อมในบ้านหรือที่ทำงานมีความปลอดภัยและสะอาดมากขึ้น
- สร้างบรรยากาศที่สบาย : ความชื้นสูงอาจทำให้รู้สึกเหนียวตัวและไม่สบาย การลดความชื้นด้วยเครื่องปรับอากาศจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในฤดูร้อนหรือในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้น
- ช่วยดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์และวัสดุต่าง ๆ : ความชื้นที่มากเกินไปสามารถทำให้เฟอร์นิเจอร์หรือวัสดุต่าง ๆ เสื่อมสภาพได้ เช่น ไม้ที่บวม พื้นไม้หรือพรมที่ขึ้นรา การควบคุมความชื้นจะช่วยยืดอายุการใช้งานของวัสดุเหล่านี้และป้องกันความเสียหายที่เกิดจากความชื้น
- ประหยัดพลังงาน : เครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชันควบคุมความชื้นสามารถช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องโดยไม่ต้องใช้พลังงานมากเกินไปในการทำความเย็น จึงช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือก เครื่องปรับอากาศ
- ขนาดของห้องและกำลังทำความเย็น
สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือ ขนาดของห้องที่จะติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เพราะจะเป็นตัวกำหนดกำลังว่าเราควรใช้เครื่องที่มีกำลังทำความเย็นเท่าไหร่ ซึ่งปกติจะวัดเป็นหน่วย BTU (British Thermal Unit) เพราะถ้าเลือกเครื่องที่มีกำลังทำความเย็นน้อยเกินไป อาจทำให้ห้องไม่เย็นพอ และเครื่องจะทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานและเสี่ยงต่อการชำรุดเร็วขึ้น
หลักการคำนวณกำลังทำความเย็นเบื้องต้นสำหรับห้องทั่วไปคือ ใช้ประมาณ 700-1000 BTU ต่อ 1 ตารางเมตรของพื้นที่ เช่น ห้องมีขนาด 20 ตารางเมตร ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีกำลังทำความเย็นประมาณ 14,000-20,000 BTU ทั้งนี้ หากห้องมีความร้อนสูงจากการโดนแดดเป็นประจำ หรือมีอุปกรณ์ไฟฟ้ามาก อาจต้องเพิ่ม BTU เพื่อให้เหมาะสม
- ฟังก์ชันการ ควบคุมความชื้น
เครื่องควบคุมความชื้น เป็นฟังก์ชันที่สำคัญในเครื่องปรับอากาศสมัยใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ในเขตร้อนชื้น ความชื้นมากเกินไปในอากาศอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ภูมิแพ้ หรือโรคระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ ความชื้นที่สูงยังสามารถทำลายเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านได้ การเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชัน ควบคุมความชื้น จะช่วยให้คุณสามารถรักษาสภาพแวดล้อมในบ้านให้อยู่ในระดับที่สบายและปลอดภัย
เครื่องปรับอากาศบางรุ่นมี ระบบปรับความชื้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะดักจับความชื้นส่วนเกินในอากาศและปล่อยออกไป ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความชื้นในบ้าน
- ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
การประหยัดพลังงานเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ โดยเฉพาะในยุคที่ค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น การเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว เราจึงควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 หรือมีค่าประสิทธิภาพพลังงาน (Energy Efficiency Ratio: EER) สูง
นอกจากนี้ ควรพิจารณาเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชันอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ซึ่งช่วยปรับความเร็วในการทำงานของคอมเพรสเซอร์ตามอุณหภูมิภายในห้อง ทำให้เครื่องทำงานได้อย่างต่อเนื่องและประหยัดพลังงานมากกว่ารุ่นที่ใช้คอมเพรสเซอร์แบบธรรมดา
- ระบบกรองอากาศและฟังก์ชันเพิ่มเติม
ระบบกรองอากาศเป็นอีกฟังก์ชันที่สำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองสูง เช่น ในเมือง หรือพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง เครื่องปรับอากาศที่มีระบบกรองอากาศจะช่วยดักจับฝุ่นละออง เชื้อโรค และสารก่อภูมิแพ้ ทำให้อากาศในบ้านสะอาดและบริสุทธิ์มากขึ้น
ฟังก์ชันเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น การควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน การตั้งเวลาการทำงาน หรือโหมดประหยัดพลังงาน ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชันที่ตรงกับความต้องการของคุณ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน
- ความเงียบในการทำงาน
เสียงรบกวนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม เครื่องปรับอากาศที่มีเสียงดังอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะในห้องนอนที่ต้องการความเงียบสงบ ควรตรวจสอบระดับเสียงของเครื่องปรับอากาศก่อนเลือกซื้อ และเลือกเครื่องที่มีระบบการทำงานเงียบ เพื่อไม่ให้เกิดความรำคาญขณะพักผ่อน